เคยสงสัยบ้างไหมว่าเราเป็นเราอย่างตอนนี้ได้อย่างไร อะไรล่ะทำให้ร่างกายที่ประกอบขึ้นด้วยอนุภาคมูลฐานมีชีวิตชีวามีความรู้สึกนึกคิดขึ้นมาได้อย่างมหัศจรรย์ เรามีความรู้สึกรัก โลภ เกลียด หวงแหน และไม่อยากตาย หรือว่าจริง ๆ แล้วชีวิตเป็นมากกว่าที่เรารู้? ชีวิตคืออะไร ความตายคืออะไร สิ้นสุดที่ตรงไหน หรือว่าแท้จริงแล้วเราเป็นผู้เดินทางข้ามผ่านเวลาอันยาวนานอย่างไม่มีวันจบสิ้น แต่หากเป็นเช่นนั้นจริงทำไมเราจำไม่ได้ล่ะ หากเรามีชีวิตอยู่เพราะกรรม ทำไมธรรมชาติไม่สร้างให้เราจดจำอดีตชาติเพื่อแก้ตัว? ยังมีคำถามอื่น ๆ อีกมากมายที่ยากเกินจินตนาการ หากจะเปรียบแล้วมนุษย์เราก็ไม่ต่างจากคอมพิวเตอร์ที่ถูกควบคุมด้วยระบบ AI ร่างกายของเราก็เป็นเพียงฮาร์ดแวร์ที่ขับเคลื่อนด้วยโปรแกรมลึกลับบางอย่างที่ยากจะควบคุมแต่ก็ไม่ยากเกินเข้าใจ เมื่อเข้าใจแล้วทุกอย่างมันเป็นเรื่องธรรมดา... ปริศนาของชีวิตช่างน่าประหลาดใจจริง ๆ แต่หนังสือเล่มนี้จะทำให้คุณเข้าใจชีวิตมากขึ้นและมองมันด้วยมุมที่ต่างออกไป คำถามยาก ๆ ถูกแทนค่าด้วยคำอธิบายง่าย ๆ เชิงวิทยาศาสตร์ที่อ่านง่ายและจินตนาการตามได้จริง เมื่อเจาะลึกลงไปคุณจะพบว่าชีวิตแสนธรรมดาของเรานั้น มัน "ไม่ธรรมดา" เลยจริง ๆ

วันอังคารที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ลางสังหรณ์ ญาณหยั่งรู้ สำเหนียกภัย กับพระคาถาชินบัญชร

ก่อนเกิดคลื่นใหญ่ จะมีคลื่นระลอกเล็กๆ วิ่งเข้ามาก่อน





          กรรมอันเป็นความถี่สะท้อนกลับจากการกระทำของเรา ไม่ว่าจะเป็นทางกาย วาจา หรือ ใจ หากเป็นกรรมใหญ่ ระลอกเล็กๆ คือความถี่น้อยๆจะวิ่งเข้าถึงเราก่อน ซึ่งหากใครสวดพระคาถาชิันบัญชร (อย่างเข้าใจในความหมาย) เป็นประจำมาเป็นเวลายาวนาน จะสามารถจับสัญญาณกรรมที่วิ่งเข้ามาชนได้โดยอัตโนมัติ กล่าวคือ ก่อนกรรมใหญ่จะเข้า เสียงสวดจะแว่วขึ้นมาในใจ เหมือนใจกำลังสวดเอง เผลอเป็นได้ยินเสียงสวด เผลอเป็นได้ยินเสียงสวด มากน้อยขึ้นกับระดับกรรม หากถี่มากเหตุการณ์ที่จะเกิดจะเป็นเหตุรุนแรง ถี่น้อยก็เป็นเหตุน้อย


สัญญาณเตือนภัยนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร?

          ทางด้านกายภาพ หากใครสวดพระคาถาชินบัญชรอย่างเข้าใจในคำแปล สิ่งที่ได้คือเลือดลมเดินสะดวก เพราะมีการกำหนดจิตไปรับรู้ในจุดต่างๆทั่วร่างตลอดจนทิศต่างๆ รอบกายอย่างมีระบบ ในลักษณะเดียวกับการเดินลมปราณ ซึ่งพระผู้แต่งพระคาถานี้คงตรึกมาดีแล้ว


           ทางด้านจิตใจ เนื่องจากบทสวดประกอบไปด้วยการร้องขอให้พระชิน หรือ ผู้ชนะ คือพระอรห้นต์ทั้งหลายในพระพุทธเจ้าช่วยปกปักรักษา เป็นปราการ เป็นเกราะเพชรป้องกันภัยจากอันตรายทั้งปวงให้กับเรา ในลักษณะการฝังถ่วงน้ำหนักเข้าฐานข้อมูลในสมองว่า การทำงานของพระคาถานี้ = การป้องกันภัย ดังนั้นไม่ว่าความถี่ของภัยอันตรายใดถูกรับรู้ จิตใต้สำนึกที่ถูกสั่งไว้ทุกวันๆ จะเริ่มสวดขึ้นเอง ทำให้เรารับรู้และแยกแยะได้ง่ายว่าความรู้สึกเล็กๆที่เราเรียกว่าลางสังหรณ์กำลังเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม เพราะมีเสียงสวดเป็นสัญญาณยืนยันว่ามีสัมผัสของอันตรายจริง ไม่ได้คิด หรือรู้สึกไปเอง ทำให้เราระวังตัวมากขึ้น สงบขึ้น ไม่ส่งความถี่แรงๆออกไป คิดถึงแต่พระอรหันต์ในพระคาถาซึ่งมีแต่ความสงบเย็นเป็นลักษณะ ผลกรรมต่างๆ ที่จะเข้ามาสนองเลยเบาแรงลง เพราะจิตเราอยู่ในภาวะละเอียดแน่น ความถี่หยาบเลยไม่เข้าพวกเท่าไหร่ กรรมก็ถูกบรรเทาไปในลักษณะนี้

และนี่คืออานิสงส์ของพระคาถาชินบัญชร....

http://2devreg.com/dr1/index.php/2012-03-02-16-32-48/140-chinbunchon

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น